คู่มือเลือก ร่มแจกงานสัมมนา /ออกบูธ ให้คุ้มค่าและน่าจดจำ ถ้าพูดถึง “ของแจกงานสัมมนา / ของแจกออกบูธ” สิ่งแรก ๆ ที่หลายคนคิดถึงก็คือ ปากกา สมุดโน้ต แก้วน้ำ แต่สิ่งที่กลับสร้างความประทับใจได้มากกว่าเพราะ ใช้งานได้จริงในชีวิตประจำวัน ก็คือ “ร่ม”
ร่มไม่ใช่แค่ของใช้ป้องกันแดดฝน แต่ยังทำหน้าที่เป็น สื่อโฆษณาเคลื่อนที่ ที่ช่วยให้แบรนด์ของคุณอยู่ในสายตาผู้คนได้บ่อยครั้ง โดยเฉพาะถ้าเลือกแบบและดีไซน์ได้ดี ร่มแจกงานสัมมนาหรือออกบูธจะกลายเป็นของที่ผู้เข้าร่วมงานอยากเก็บไว้ใช้นาน ๆ ไม่ใช่แค่รับแล้ววางทิ้ง
บทความนี้จะพาคุณเจาะลึกวิธีการเลือก ร่มแจกงานสัมมนา หรือ ออกบูธ อย่างคุ้มค่า ทั้งด้านงบประมาณ ดีไซน์ การสกรีนโลโก้ รวมถึงเคล็ดลับทำให้ร่มของคุณ “น่าจดจำ” กว่าคู่แข่ง
ทำไม “ร่ม” ถึงเป็นของแจกยอดนิยมในงานสัมมนา/ออกบูธ
- ใช้งานได้จริงในชีวิตประจำวัน
- ร่มถือเป็นของที่ “ใช้ได้ตลอดปี” ไม่จำกัดฤดูกาล
- ฤดูฝน → กันเปียก
- ฤดูร้อน → กันแดด
- แถมยังเป็นของที่หลายคนมักพกติดรถ ติดบ้าน หรือไว้ที่ออฟฟิศ → ทำให้มีโอกาสหยิบมาใช้งานสูงกว่าของแจกชิ้นเล็ก ๆ อย่างปากกา หรือแฟลชไดรฟ์ ที่บางครั้งใช้แล้วก็หายไปในลิ้นชัก
- พื้นที่สกรีนโลโก้กว้าง สร้างการมองเห็นได้มาก
- บริเวณผ้าใบของร่มมีพื้นที่ใหญ่ สามารถพิมพ์โลโก้ ข้อความ หรือสโลแกนแบรนด์ได้ชัดเจน
- ต่างจากของแจกเล็ก ๆ เช่น ปากกา ที่สกรีนได้เพียงชื่อสั้น ๆ → ร่มสามารถทำเป็น “ป้ายโฆษณาเคลื่อนที่” ได้เลย
- ยิ่งถ้าออกแบบสีสันตรงกับ Corporate Identity → จะช่วยให้ภาพลักษณ์ของแบรนด์ชัดเจนขึ้นอีก
- สะดุดตาเวลาใช้งาน
- เมื่อใครสักคนกางร่มในที่สาธารณะ ร่มจะกลายเป็นจุดดึงสายตาโดยอัตโนมัติ เพราะมีขนาดใหญ่และอยู่ในระดับสายตาคนอื่น
- ซึ่งหมายความว่า โลโก้บนร่มหนึ่งคัน = สื่อโฆษณาที่เคลื่อนที่ไปได้ทุกที่
- ในมุมของการตลาด นี่คือ “การสร้าง Reach แบบฟรี” ที่แตกต่างจากสื่อสิ่งพิมพ์ซึ่งต้องเสียค่าโฆษณาเพิ่ม
- สร้างภาพจำและความประทับใจ
- ถ้าดีไซน์ร่มไม่เหมือนใคร เช่น เลือกสีเฉพาะตัว มีลวดลายสร้างสรรค์ หรือออกแบบให้เข้ากับแคมเปญ → ผู้ใช้จะจดจำแบรนด์คุณได้ทันที
- ยิ่งไปกว่านั้น ร่มยังเป็นของที่มีมูลค่ารู้สึกสูง (perceived value) มากกว่าของแจกชิ้นเล็ก ๆ ทำให้ผู้รับรู้สึกว่า “แบรนด์ให้ของมีคุณค่า” → ช่วยเพิ่มความรู้สึกเชื่อมโยงและความไว้วางใจในแบรนด์
ประเภทของร่มที่เหมาะกับการแจกงานสัมมนา/ออกบูธ
ร่มพับ (Foldable Umbrella)
- พกพาง่าย ขนาดกะทัดรัด → ใส่กระเป๋าถือหรือเป้ได้ ไม่เกะกะ ทำให้ผู้เข้าร่วมงานยินดีพกกลับไปใช้จริง
- ราคาเหมาะสม → ต้นทุนไม่สูงมาก จึงเหมาะกับงานที่มีผู้ร่วมงานจำนวนมาก เช่น สัมมนาวิชาการ งานออกบูธในห้าง หรือ Roadshow
- เลือกได้หลายแบบ → ทั้งร่มพับ 2 ตอน, 3 ตอน หรือ 5 ตอน ซึ่งมีความแตกต่างในเรื่องความยาว ความกะทัดรัด และราคาต่อคัน
- ข้อดีทางการตลาด: เมื่อสกรีนโลโก้หรือสโลแกนบนร่มพับ ผู้รับจะหยิบมาใช้ในชีวิตประจำวันบ่อย ทำให้แบรนด์ถูกมองเห็นซ้ำ ๆ
ร่มกอล์ฟ (Golf Umbrella)
- ขนาดใหญ่ แข็งแรง → ใช้กางบังแดดฝนได้หลายคน เหมาะกับพื้นที่โล่งแจ้ง เช่น สนามกอล์ฟ สนามกีฬา หรือกิจกรรมกลางแจ้ง
- ภาพลักษณ์พรีเมียม → เมื่อใช้เป็นของแจก ทำให้ผู้รับมองว่าแบรนด์ให้ความสำคัญและใส่ใจ → สร้างความประทับใจได้มาก
- เหมาะกับกลุ่มลูกค้า VIP → เช่น ผู้บริหาร แขกคนสำคัญ หรือลูกค้าระดับองค์กร
- ข้อดีทางการตลาด: ร่มกอล์ฟมีพื้นที่สกรีนโลโก้ใหญ่พิเศษ เมื่อใช้งานกลางแจ้งจะกลายเป็น “ป้ายโฆษณาเคลื่อนที่” ขนาดยักษ์
ร่มแฟชั่น (Fashion Umbrella)
- ดีไซน์สวยงาม ไม่จำเจ → อาจเป็นลายพิมพ์พิเศษ สีสันสดใส หรือรูปแบบจับตา เช่น ร่มสีทูโทน ร่มลายการ์ตูน ร่มผ้าโปร่งลายกราฟิก
- ช่วยสร้างเอกลักษณ์ให้แบรนด์ → เหมาะกับงานเปิดตัวสินค้าใหม่ งานแฟร์ หรืองานที่ต้องการสร้าง Buzz
- ของแจกที่คนอยากใช้ → ร่มแฟชั่นมักถูกหยิบมาใช้ในที่สาธารณะมากกว่าร่มเรียบ ๆ → เพิ่มโอกาสให้คนรอบข้างเห็นโลโก้แบรนด์
- ข้อดีทางการตลาด: เมื่อดีไซน์สะดุดตา จะกลายเป็นตัวแทนสร้างภาพลักษณ์ “แบรนด์ทันสมัยและครีเอทีฟ”
2.4 ร่มใส / ร่มโปร่งแสง
- ทันสมัย อินเทรนด์ → ร่มใสกำลังได้รับความนิยม เพราะดูมินิมอลและเข้ากับทุกการแต่งตัว
- เพิ่มความแตกต่าง → ใช้ในงาน Event ที่ต้องการสร้างความรู้สึกไม่เหมือนใคร เช่น งานคอนเสิร์ต งานเปิดตัว Gadget หรือ Event ของวัยรุ่น
- ภาพลักษณ์สดใหม่ → ร่มใสทำให้แบรนด์ถูกมองว่า “อัพเดตเทรนด์” และไม่ล้าสมัย
- ข้อดีทางการตลาด: เหมาะกับการถ่ายรูปในงาน → เมื่อผู้ร่วมงานถ่ายรูปแล้วติดโลโก้บนร่ม จะยิ่งช่วยสร้างการรับรู้ในโลกออนไลน์ (UGC – User Generated Content)
ปัจจัยในการเลือก “ร่มแจก” ให้คุ้มค่า
1. งบประมาณ
- ร่มพับ → ราคาต่อชิ้นถูกที่สุด
- ร่มกอล์ฟ → ราคาสูง แต่ภาพลักษณ์ดี
- ร่มแฟชั่น → ราคากลาง ๆ แต่สร้างความต่างได้
2. กลุ่มเป้าหมาย
- พนักงานออฟฟิศ → ร่มพับที่พกง่าย
- ลูกค้าองค์กรใหญ่ → ร่มกอล์ฟพรีเมียม
- วัยรุ่น / กลุ่มแฟชั่น → ร่มสีสันสดใส ดีไซน์เก๋
3. ความทนทาน
- ตรวจสอบวัสดุโครง (เหล็ก, ไฟเบอร์, อลูมิเนียม)
- ผ้าร่ม (โพลีเอสเตอร์, ผ้าเคลือบกัน UV)
- ระบบเปิด-ปิด (มือกด, อัตโนมัติ)
4. ความสะดวกในการผลิตและจัดส่ง
- โรงงานผลิตใกล้ → ส่งไว ค่าใช้จ่ายถูก
- บรรจุภัณฑ์ (ซองร่ม/กล่อง) → เพิ่มความพรีเมียม
Q&A
Q1: ร่มแบบไหนเหมาะกับงานสัมมนาที่มีคนเยอะ ๆ?
A: ร่มพับราคาประหยัด เหมาะที่สุด เพราะแจกได้จำนวนมาก พกง่าย และต้นทุนต่อชิ้นไม่สูง
Q2: ถ้างบจำกัดแต่ต้องการดูพรีเมียม ควรเลือกแบบไหนดี?
A: เลือกร่มพับเคลือบกัน UV หรือร่มแฟชั่นสีพิเศษ พร้อมบรรจุถุงซิปหรือกล่องใส จะช่วยเพิ่มมูลค่าให้ดูหรู
Q3: ต้องการร่มที่ใช้งานทน ควรดูตรงไหน?
A: ให้ดูโครงร่ม (แนะนำไฟเบอร์หรือเหล็กหนา), ระบบกางอัตโนมัติที่แข็งแรง และผ้าร่มเคลือบกันน้ำหรือกัน UV
Q4: โลโก้บริษัทจะสกรีนตรงไหนดีให้คนเห็นชัด?
A: ตำแหน่งยอดนิยมคือบนผืนร่มด้านนอก (Panel) เพราะเวลาถือหรือกางออกมา โลโก้จะชัดเจนที่สุด
Q5: ใช้เวลาผลิตและจัดส่งร่มแจกกี่วัน?
A: โดยทั่วไปใช้เวลาผลิตประมาณ 7–15 วัน ขึ้นอยู่กับจำนวนและเทคนิคการสกรีน ถ้าสั่งมากกว่า 1,000 คันอาจใช้เวลานานขึ้น
Q6: ร่มแจกช่วยโปรโมตแบรนด์ได้จริงไหม?
A: ได้จริงแน่นอน เพราะร่มมีพื้นที่สกรีนใหญ่ เวลาใช้งานกลางแจ้งจะมีคนเห็นโลโก้บ่อย ทำให้แบรนด์เป็นที่จดจำได้ยาวนาน
Q7: เลือกร่มสีไหนดีให้เข้ากับแบรนด์?
A: ควรเลือกสีที่ใกล้เคียงกับสี CI ของบริษัท เช่น โลโก้สีเขียวก็ควรใช้ร่มโทนเขียว แต่ถ้าอยากให้สะดุดตา แนะนำร่มสีพื้นเข้มตัดกับโลโก้สีอ่อน จะทำให้แบรนด์โดดเด่น
ติดต่อสั่งผลิตร่มพรีเมี่ยมกับเรา
หากคุณสนใจสั่งทำร่มพรีเมี่ยมกับเรา ทีมงานพร้อมให้คำแนะนำทุกขั้นตอน พร้อมวางแบบMock-upฟรีและบริการจัดส่งทั่วประเทศ
📞 โทร: 095-372-7184 , 082-580-1463 , 088-691-9249
📩 อีเมล: info@romtook.com
📍 Line ID: @buddypremium
เลือกผลิตร่มพรีเมี่ยมกับมืออาชีพ สร้างภาพลักษณ์องค์กรให้โดดเด่นด้วยของพรีเมี่ยมคุณภาพสูง
อ่านบทความเพิ่มเติม :